เนื่องจากมีส่วนประกอบของธาตุไอโอดีนซึ่งเป็นธาตุอาหารที่ช่วยป้องกันเราจากโรคคอพอกหรือโรคเอ๋อ
นอกจากนี้ร่างกายของเรายังต้องการเกลือเพื่อรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย
เพื่อให้เซลล์และเนื้อเยื่อทำงานเป็นปกติ
ในด้านของชีวิตประจำวันเกลือยังคงไว้ซึ่งความสำคัญอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว หลายพันปีก่อน
เกลือเป็นสิ่งที่หายากและเป็นสิ่งที่ต้องการอย่างยิ่ง เราใช้เกลือในการปรุงรสชาติที่ทำให้อาหารเค็มมาตั้งแต่โบราณ
ในอดีตเราใช้เกลือเพื่อการถนอมอาหาร ทำให้เก็บไว้ได้นานขึ้นโดยนำเกลือแกงมาหมักกับผักหรือเนื้อสัตว์
เพราะเกลือแกงมีคุณสมบัติในการดูดน้ำและความชื้นทำให้เนื้อสัตว์และผักแห้งและสามารถเก็บไว้ได้นาน
แม้กระทั่งการทำมัมมี่ของอียิปต์โบราณยังต้องใช้เกลือจำนวนมากทับร่างของฟาโรห์ไว้เป็นเวลา 3-7 วัน
เนื้อจะแห้งติดกระดูกเลยทีเดียว (ผู้เขียนเคยดูสารคดีเกี่ยวกับมัมมี่)
ในสมัยโบราณเกลือจึงกลายเป็นสิ่งที่ต้องการและหายากถึงขนาดมีการทำสงครามเพื่อแย่งชิงเจ้าผลึกเค็ม ๆ
นี่กันเลยทีเดียว ตัวอย่างเช่นสงครามเกลือในสหรัฐอเมริกา พ่อค้าเกลือในแคริบเบียนจะเก็บเกลือไว้ในห้องใต้ดิน
ชาวจีน ชาวโรมัน ชาวฝรั่งเศส ชาวเวนิซ ตระกูลฮัพเบิร์ก และรัฐบาลอื่นๆ อีกมากมายได้เก็บภาษีเกลือเพื่อหาเงิน
ในการทำสงคราม มีการจ่ายเกลือเป็นค่าจ้างให้แก่ทหาร และบางครั้งก็ให้แก่คนงานด้วย
เกลือนั้นมีอยู่มากมายในโลกนี้จนอาจกล่าวว่า "ไม่มีที่ใดในโลกที่ไม่มีเกลือ" เกลือจากน้ำทะเล
เราเรียกว่า "เกลือสมุทร" เป็นเกลือที่ทำขึ้นด้วยวิธีการตากน้ำทะเลให้น้ำระเหยไป เหลือเป็นผลึกเกลือสีขาว
"เกลือสินเธาว์" เป็นเกลือที่เกิดจากดินเค็มที่น้ำชะล้างแล้วแห้งไป ปรากฏเป็นคราบเกลือติดอยู่บนผิวดิน
มีลักษณะขาวร่วน เกลือสินเธาว์มีความบริสุทธิกว่าเกลือสมุทร แต่เกลือสมุทรที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ดี
จะมีแร่ธาตุต่อผิวพรรณมากกว่าเกลือสินเธาว์
เกลืออีกชนิดหนึ่งคือเกลือเอปซอม เรียกอีกอย่างว่า "ดีเกลือฝรั่ง" พบทั่วไปในแหล่งที่มีเกลือแร่
หรือน้ำทะเลระเหยเป็นไอ เกลือชนิดนี้มักใช้ในเรื่องความงาม
- เกลือกับการทำความสะอาดรูขุมขนแบบล้ำลึก โดยการเติมเกลือเอปซอม 1 ช้อนชา
ลงในน้ำอุ่นครึ่งแก้ว ใช้ขัดผิวเพื่อกำจัดสิวเสี้ยน ทำความสะอาดรูขุมขน ทำให้ผิวพรรณสดชื่น
- บำรุงผิวให้นุ่มนวลด้วยการใช้เกลือเอปซอม 1 กำมือนวดตัวขณะอาบน้ำ จะช่วยขัดผิว
และทำให้เซลล์ที่ตายแล้วหลุดออก ทำให้ผิวพรรณนุ่มและสดชื่นขึ้น
- ลดรอยคล้ำใต้ดวงตา ใช้เกลือสมุทร 2 ช้อนชาผสมน้ำอุ่นสองถ้วย แล้วใช้ผ้าหรือสำลีจุ่มในน้ำเกลือ
นำมาวางปิดบริเวณเปลือกตาทั้งสองข้างไว้สักครู่ รอยคล้ำจะจางลง
- ช่วยฟอกฟันขาว บดเกลือสมุทร 1 ส่วนให้เป็นผงละเอียด ปั่นผสมกับเบคคิ้งโซดา 2 ส่วนให้เข้ากัน
แล้วนำไปถูฟัน จะทำให้ฟันขาว และยังช่วยป้องกันคราบหินปูนที่เกาะตามซอกฟันได้อีกด้วย
- ลดความมันบนใบหน้า เริ่มด้วยการใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำร้อน แล้วบิดให้หมาด ๆมาวางปิดบนใบหน้า
ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที เพื่อเปิดรูขุมขนให้กว้างขึ้น นำผ้าขนหนูออกแล้วใช้เกลือสินเธาว์หรือเกลือสมุทร
1 ช้อนชาผสมน้ำธรรมดาในขวดสเปรย์ขนาดเล็ก ฉีดพ่นน้ำเกลือให้ทั่วทั้งใบหน้า ใช้ผ้าขนหนูเช็ดให้แห้ง
จะช่วยบำรุงผิวหน้าให้กลับมีสุขภาพดีและสดชื่นขึ้น
- ลบรอยผิวหน้งที่หยาบและเป็นรอยแตก นำเกลือสมุทร 1 ถ้วย เกลือเอปซอม 1 ถ้วย และน้ำมันพืช
1 ถ้วย ผสมให้เข้ากันดี ขัดถูบริเวณผิวหนังที่หยาบกร้าน เช่น รอยด้านที่เท้า หัวเข่า และข้อศอก
จะทำให้ผิวหนังที่หยาบกร้านอ่อนนุ่มขึ้น
- ช่วยเพิ่มน้ำหนักให้เส้นผม ผสมเกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำสะอาด 1 ถ้วย คนให้เข้ากัน
แล้วเทลงในขวดสเปรย์ ฉีดพรมเส้นผมในขณะจัดแต่งทรง แล้วปล่อยให้แห้งเองตามธรรมชาติ
เพียงเท่านี้ผมก็จะมีน้ำหนักตามธรรมชาติ
นอกจากสรรพคุณในด้านการเสริมความงามแล้ว เกลือยังใช้ในทางการบำบัดโรคอีกด้วย
- บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ สารละลายเกลือเอปซอมช่วยดึงของเหลวออกจากร่างกาย
และลดอาการบวมของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในขณะที่ดึงของเหลวออกจากผิวก็ยังดึงเอากรดแล็กติกออกมาด้วย
เพราะกรดนี้ทำให้ร่างกายปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ วิธีทำคือเติมเกลือเอปซอม 1-2 ถ้วย ลงในอ่างน้ำร้อน
และแช่ตัวเพื่อผ่อนคลาย
- ลดอาการเคล็ดขักยอกและฟกช้ำ เกลือเอปซอมช่วยลดการบวมที่เกิดจากอาการเคล็ดขัดยอก
และฟกช้ำ โดยเติมเกลือเอปซอม 2 ถ้วยลงในน้ำอุ่นแล้วแช่ส่วนที่เป็น
- ไอเพราะเป็นหวัด แค่เอาน้ำเปล่า 1 ถ้วย มาเหยาะเกลือลงไป 1 ช้อนชา คนเบาๆ
จนกว่าเกลือจะละลาย แล้วใช้บ้วนปากกลั้วคอหลายๆ ครั้ง ความเค็มจะเข้าไปละลายเสมหะในลำคอ
ทีนี้ก็ไม่ต้องไอให้คนข้างๆ รำคาญแล้ว
- มึนหัว สมองไม่แล่น สาวทำงานที่เจอแบบนี้อย่ารอช้า รีบรองน้ำอุ่นให้เต็มถัง
หยอดเกลือลงไป 2-3 ช้อนชา แล้วเอามาอาบ รับรองว่าสมองจะโล่งคิดงานได้รวดเร็ว
เพราะเกลือช่วยกระตุ้นให้เลือดลมไหลเวียนดี มีเลือดไปหล่อเลี้ยงสมอมึนหัว สมองไม่แล่น
สาวทำงานที่เจอแบบนี้อย่ารอช้า รีบรองน้ำอุ่นให้เต็มถัง หยอดเกลือลงไป 2-3 ช้อนชา แล้วเอามาอาบ
รับรองว่าสมองจะโล่งคิดงานได้รวดเร็ว เพราะเกลือช่วยกระตุ้นให้เลือดลมไหลเวียนดี
มีเลือดไปหล่อเลี้ยงสมอง
- เร่งให้อาเจียน ถ้าบังเอิญกินสารพิษเข้าไป หรืออึดอัดอาหารไม่ย่อย จนต้องทำให้อาเจียนออกมา
ให้ดื่มน้ำเกลือเข้มข้นแก้วใหญ่ๆ ไม่นานจะได้อาเจียนสมใจ
- คัดจมูก จะแค่คัดจมูกน้ำมูกไหล หรือลุกลามจนกลายเป็นโรคจมูกอักเสบก็ตาม ให้ใช้น้ำเกลือเจือจาง
หยอดเข้าไปในรูจมูกทั้งสองข้าง เกลือจะช่วยฆ่าเชื้อโรคในโพรงจมูก จะได้หยุดซี้ดซ้าดปาดน้ำมูกได้เสียที
- คันตามผิวหนัง ทาบริเวณที่คันด้วยน้ำเกลือ เชื้อราบริเวณนั้นจะสิ้นฤทธิ์
- โรคตาแดง โรคนี้มีเชื้อโรคเป็นตัวการอยู่เบื้องหลัง แต่สามารถปฐมพยายาบาลตัวเอง
ก่อนถึงมือหมอได้ง่ายๆ ด้วยการเอาผ้าขนหนูสะอาดๆ (ถ้าต้มฆ่าเชื้อโรคก่อนได้ยิ่งดี)
จุ่มน้ำเกลือแล้วเอามาเช็ดตา อาจจะแสบบ้างแต่นั่นล่ะคือยาดี หลังจากที่เกลือเข้าไปฆ่าเชื้อโรคในตาแล้ว
ก็ล้างตาหลายๆ ครั้งด้วยน้ำสะอาด อาการบวมแดงมีขี้ตาของคุณจะทุเลาลง
แม้ว่าทุกวันนี้เกลือจะเป็นสิ่งที่หาง่าย ราคาถูก จนดูเหมือนจะด้อยค่า แต่เราคงปฎิเสธไม่ได้ว่า
เราขาดเกลือไม่ได้จริง ๆ
-----------------------------------------------------
แหล่งข้อมูล
- การผลิตและการตลาดของเกลือในประเทศไทย โดยกองวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจ
การเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
- เกลือ คุณสมบัติและการใช้ประโยชน์ เรียบเรียงโดย กุลรัตน์
- 1001 ตำรับยาใกล้ตัว โดยรีดเดอร์ส ไดเจสท์ (ประเทศไทย)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น